การหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร? (Erectile Dysfunction) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่ากามตายด้านนั้น คือภาวะที่ อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัว ได้สมบูรณ์ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ อาการนี้อาจเกิดขึ้นกับผู้ชายในช่วงวัยใดก็ได้ แต่ก็มักจะพบมากขึ้นตามอายุทิ่เพิ่มขึ้น
กลไกใน การแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ค่อนข้างมีความซับซ้อน กล่าวคือ สิ่งเร้าจะกระตุ้นสมองให้ส่งสัญญาณผ่านเส้นประสาทไขสันหลัง สัญญาณเหล่านี้ก็จะกระตุ้นให้เกิดการปล่อยสารเคมีที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลไปทำให้หลอดเลือดส่งเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จึงทำให้อวัยวะเพศชายขยายใหญ่ขึ้น เนื้อเยื่อของอวัยวะเพศชายมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ เรียงตัวกันเป็นแท่ง การแข็งตัวของอวัยวะเพศชายจะเกิดขึ้นเมื่อมีเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อนี้และมีการขยายตัวเต็มที่ การขยายตัวดังกล่าวจะไปกดเส้นเลือดดำทำให้เลือดไหลออกจากอวัยวะเพศชายได้น้อย สาเหตุของการเสื่อสมรรถภาพทางเพศนั้นอาจเกิดจากการสะดุดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งที่กล่าวมา โดยอาจมีสาเหตุจากปัญหาทางร่างกายหรือจิตใจก็ได้
ถึงแม้ว่าการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชายนั้นจะเป็นเรื่องปกติและไม่ใช่สัญญาณของการเกิดปัญหาเรื้อรังก็ตาม แต่ผู้ที่ประสบปัญหาดังกล่าวก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนเรื่องวิธีการรักษาก็จะแตกต่างกันไปตามสาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- สาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร
- อาการของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- วิธีรักษาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
- การป้องกันการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

สาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศคืออะไร
- ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ เช่น ความรู้สึกผิดหรือความกังวลต่างๆ โดยเฉพาะ
ความกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งกลัวว่าอวัยวะเพศจะไม่สามารถแข็ง
ตัวได้ จนกลายเป็นสิ่งรบกวนใจถึงขนาดที่ทำให้เกิดเป็นความคาดการณ์ไปเอง
ว่าจะเป็นเช่นนั้น
- สภาวะที่มีผลกระทบต่อสมองและการลดลงของแรงขับทางเพศ ได้แก่ อาการ
ซึมเศร้าหรือโรคจิตเภท การใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยา
ระงับประสาท ยาต้านการซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด และ
แอลกอฮอล์ รวมไปถึงการป่วยเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ ปอด ไต หรือโรคตับ และ
โรคมะเร็งบางชนิด
- การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมนที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง รวมถึงระดับ
เทสโทสเทอโรนลดลง ระดับโปรแลกตินเพิ่มขึ้น(ซึ่งขึ้นอยู่กับการทำงานของ
ต่อมพิทูอิทารี่) และภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากหรือน้อยเกินไป
- ความผิดปกติต่างๆ ทางสมอง ซึ่งความผิดปกตินี้อาจไม่มีผลต่อเรื่อง
ความต้องการทางเพศ แต่จะมีความเกี่ยวเนื่องทางระบบประสาทซึ่งมีผลต่อ
การทำหน้าที่ทางเพศ ความผิดปกติดังกล่าวจะรวมถึงเนื้องอกในสมองและ
เส้นเลือดในสมองอุดตันด้วย
- มีความผิดปกติที่บริเวณไขสันหลัง เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทส่วน
กลาง (Multiple Sclerosis) หรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง
- เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย โดยมีสาเหตุจากโรคเบาหวาน หรือการผ่าตัด
กระดูกเชิงกรานเพื่อรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมะเร็งลำไส้
- การรับประทานยาบางชนิดก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิด ปัญหาการเสื่อม
สมรรถภาพทางเพศ ได้ ได้แก่ ยาต้านอาการซึมเศร้า anticholinergics ยาก
ลุ่มแอนตี้ฮีสตามีน ยาลดความดันโลหิตสูง เบต้า-บล็อกเกอร์ (และยาลดความ
ดันอื่นๆ ในกลุ่ม
antihypertensives) รวมไปถึงการได้รับสารนิโคตินจากการสูบบุหรี่เป็นระยะ
เวลานานๆ ด้วย
- โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดส่วนปลาย (การไหลเวียนของเลือดไม่ถึงอวัยวะส่วน
ปลายสุดและอวัยวะเพศชาย)
- ความอ่อนล้า
- อายุมากขึ้น
- อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวหรือคงความแข็งตัวไว้ได้ จนทำให้เกิดความ
พอใจในขณะปฏิบัติกิจทางเพศได้
- หลีกเลี่ยงการรับสารนิโคตินจากการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพย์
ติดอื่นๆ
- ถ้ายาที่ใช้อยู่เป็นสาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แพทย์ผู้ให้การ
รักษาอาจเปลี่ยนยาชนิดใหม่ให้
- กรณีที่การหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีสาเหตุจากปัญหาด้านอารมณ์หรือจิตใจ
แพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษาทางจิตเวชจะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสม
เพื่อรักษาอาการดังกล่าวได้
- ถ้าระดับเทสโทสเทอโรนในเลือดต่ำ สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดเทสโทสเทอ
โรนเข้าร่างกายหรือแปะที่ผิวหนัง
- อาจต้องทำการรักษา ถ้ามีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง (Hyperthyroidism) หรือ
ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ (hypothyroidism) จนเกินไป
- การรักษาด้วยยา Bromocriptine เพื่อรักษาระดับของโปรแลคตินที่เพิ่มมากเกิน
ไป
- ในปัจจุบันมีการรักษาด้วยยารับประทานสามชนิดที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ ยาไว
อะกร้า (sildenafil) ยาเลวิตร้า(vardenafil) และยาเซียลิส (tadalafil) ยาทั้ง
สามชนิดสามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้โดยทำให้เลือดไหล
เวียนเข้าไปสู่อวัยวะเพศชายได้ในระหว่างมีการกระตุ้นทางเพศ ยาเหล่านี้จะไม่
ได้ก่อให้เกิดการแข็งตัวในช่วงที่ไม่ได้มีการกระตุ้นทางเพศ ยาไวอะกร้าและเลวิ
ตร้าช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ส่วนยาเซียลิสจะมีผล
ประมาณ 24-36 ชั่วโมง ผลข้างเคียงของยาทั้งสามแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย
ยานี้ไม่ควรใช้กับผู้ที่กำลังใช้ยาประเภทที่มีส่วนผสมไนเตรทอยู่ เช่น ไนโตร
ไกลเซอริน หรือไม่ควรใช้กับคนไข้ที่เป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน มีอาการ
หัวใจวาย หรือหัวใจเต้นผิดปกติขั้นรุนแรง
- การใช้เครื่องปั๊มสูญญากาศเพื่อช่วยให้เกิดการแข็งตัว หลักการทำงานของ
เครื่องคือ อากาศจะถูกปั๊มออกจากท่อพลาสติกที่นำไปสวมไว้ที่อวัยวะเพศชาย
ภายในเวลา 2-3 นาทีหลังทำการปั๊ม เลือดจะถูกดึงให้เข้าไปที่เนื้อเยื่อ corpora
cavernosa ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ เมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวแล้ว
เครื่องมือนี้จะถูกนำออกไป จากนั้นจึงนำหนังสติ๊กรัดที่ฐานของอวัยวะเพศชาย
เพื่อช่วยให้คงการแข็งตัวได้
- การฉีดยา alprostadil ด้วยตัวเอง ยาชนิดนี้เป็นยาที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว
เพื่อนำเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จนเกิดการแข็งตัว แพทย์ของคุณจะเป็นผู้
แนะนำเทคนิควิธีการฉีดยาที่ถูกต้อง
- การรักษาด้วยการผ่าตัดสอดใส่วัสดุเข้าไปในอวัยวะเพศชาย วิธีการหนึ่งก็คือ
การสอดใส่วัสดุที่ขยายตัวได้ และมีโพรงสำหรับกักเก็บของเหลวได้ด้วย อีกวิธี
การหนึ่งก็คือการฝังแท่งที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งสามารถดัดให้โค้งมาข้างหน้าเมื่อ
ต้องการให้อวัยวะเพศอยู่ในภาวะแข็งตัว หรือเพื่อพับเก็บไว้กับลำตัวได้
- ในบางกรณีซึ่งไม่มากนัก แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดหลอดเลือด เพื่อให้เลือด
ไหลเวียนเข้าสู่อวัยวะเพศชายได้ดีขึ้น
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่เกินวันละ 2 แก้ว
- งดสูบบุหรี่
- ปรึกษานักบำบัดเกี่ยวกับการปรับปรุงการสื่อสารกับคู่ของคุณ
ขอขอบคุณข้อมูลที่ดีจาก : bumrungrad