โรคกรดไหลย้อน (Gastroesophageal reflux disease)
เป็นปัญหาสุขภาพที่สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัยซึ่งเกิดจากกรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปในหลอดอาหาร เพราะหูรูดหลอดอาหารส่วนปลาย ที่กั้นระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ คลายตัวมากเกินไปหรือเปิดบ่อยมากกว่าปกติ ทำให้กรดหรือของเหลวสามารถไหลจากกระเพาะอาหารไปยังหลอดอาหารได้
ปัจจัยเสี่ยงของโรคกรดไหลย้อน
- อายุมากขึ้น
- ภาวะอ้วน
- การสูบบุหรี่
- การนอนราบภายหลังการรับประทานอาหาร
- การรับประทานยาบางชนิด เช่น แอสไพรินหรือยาแก้อักเสบ
- พฤติกรรมการบริโภคปริมาณมากในแต่ละมื้อ หรือการรับประทานอาหารบาง
ประเภท เช่น อาหารทอด หรือ อาหารที่มีไขมันสูง
- การดื่มเครื่องดื่มบางประเภท เช่น แอลกอฮอล์, กาแฟ หรือน้ำอัดลม
- การตั้งครรภ์เพราะระดับฮอร์โมนของคุณแม่ตั้งครรภ์มีการเปลี่ยนแปลงซึ่งส่งผล
ต่อการเกิดโรคกรดไหลย้อนได้
อาการของโรคกรดไหลย้อน
- อาการแสบร้อนบริเวณหน้าอกซึ่งจะเป็นมากหลังรับประทานอาหารมื้อหนัก
- มีอาการเรอและน้ำรสเปรี้ยวหรือรสขมไหลย้อนขึ้นมาในปาก
- รู้สึกกลืนติดเหมือนมีก้อนอยู่ในลำคอ
- ท้องอืด แน่นท้อง คลื่นไส้ อาเจียนหลังรับประทานอาหาร
- หืดหอบ ไอแห้งๆ เสียงแหบ เจ็บคอ อาการเหล่านี้เกิดจากกรดที่ไหลย้อนขึ้นมาบริเวณกล่องเสียง ทำให้เกิดกล่องเสียงอักเสบ
ภาวะกรดไหลย้อน นอกจากจะรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันแล้ว ถ้าเป็นเรื้อรังอาจทำให้เกิดพยาธิสภาพในหลอดอาหาร ได้แก่ หลอดอาหารอักเสบ, มีเลือดออก หรือปลายหลอดอาหารตีบได้ ในกรณีที่เป็นรุนแรง อาจจะยังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเซลล์เยื่อบุหลอดอาหาร ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและเรื้อรังอาจกลายเป็นมะเร็งหลอดอาหารส่วนปลายได้ นอกจากนี้ยังมีโรคร้ายแรงหลายโรคที่มาด้วยอาการคล้ายอาการของโรคกรดไหลย้อนได้ เช่น หลอดอาหารหรือกระเพะอาหารอักเสบติดเชื้อ, แผลในหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร หรือ มะเร็งของหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารส่วนบน เป็นต้น
- การตรวจและการวินิจฉัยโรคกรดไหลย้อน
- ซักประวัติ ตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ในกรณีที่มีอาการหรือสัญญาณเตือน(Alarm features) หรืออาการไม่ดีขึ้นหลัง
ได้รับการรักษาเบื้องต้น อาจจะต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมได้แก่
- การตรวจการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารส่วนต้น (upper GI endoscopy)
รวมถึงหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และลำไส้เล็กส่วนต้น
- การตรวจการบีบตัวของหลอดอาหารและการตรวจวัดความเป็นกรดของ
หลอดอาหาร (Esophageal manometry and Esophageal pH monitoring)
เพื่อวางแผนการรักษา เห็นสภาพที่แท้จริงของปัญหา สามารถวินิจฉัยแยกโรค
นำไปสู่การรักษาที่ตรงจุด
คนไทยในปัจจุบันเป็นโรคกรดไหลย้อนมากกว่าในอดีต เพราะปัจจัยการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปชีวิตที่เร่งรีบ น้ำหนักตัวมาก พฤติกรรมการรับประทาน และอาหารบางประเภทดังนั้นสิ่งที่สามารถป้องกันหรือดูแลตนเองทำได้ง่ายตัวเอง คือ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เป็นความเสี่ยง เพื่อชีวิตที่มีความสุขของตัวคุณ
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก : โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล